millenniumauto
BLOGS
ทดลองขับ BMW 330e M Sport : พลิกโฉมครั้งใหม่ไร้ที่ติ

18 Mar 2025

345

ทดลองขับ BMW 330e M Sport : พลิกโฉมครั้งใหม่ไร้ที่ติ

เมื่อได้รับกุญแจ BMW 330e M Sport จากตัวแทนจำหน่าย ความประทับใจแรกคือชุดแต่งสีดำไฮกรอสรอบคันที่ดูดุดันแต่มีระดับ มาพร้อมหน้าตาใหม่ที่ดุดันกว่าเดิมทั้งไฟหน้า Adaptive LED กระจังหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ เสริมหล่อด้วย กันชน M ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้วแบบ M Sport Package หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero สุดสปอร์ตห้ความรู้สึกพร้อมที่จะออกตัวได้ทุกเมื่อ เสริมดุด้วย คาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบสี่พอต เพิ่มความเผ็ดแบบจัดจ้าน ตบท้ายด้วยกันชนหลัง M ดีไซน์ดุดัน พร้อมท่อไอเสียทรงกลมคู่แยกซ้ายขวา และ สปอยเลอร์หลังยกตัวเล็กน้อย เพื่อช่วยกดท้ายให้แน่นหนึบแม้วิ่งด้วยความเร็วสูง  

 

ก่อนออกเดินทาง ผมทดลองใช้ระบบชาร์จ AC 11 kW ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 12.0 kWh จนเต็มไม่รอนานอย่างที่คิด โดยรถสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึง 60 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

 

ก้าวไปภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุสีเทาด้าน Dark Graphite Matte ดูหรูหราและทันสมัย หน้าจอโค้ง BMW Curved Display ที่แสดงผลชัดเจนแม้ในที่มีแสงแดดส่อง พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ M Sport ทรง 3 ก้านให้ความรู้สึกสปอร์ตและกระชับมือ

 

ในโหมด Electric เพื่อสัมผัสการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน การเร่งให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลแต่ฉับไว ไร้เสียงรบกวน เหมาะอย่างยิ่งกับการขับในเมืองที่การจราจรติดขัด เมื่อแล่นออกสู่มอเตอร์เวย์ ผมเปลี่ยนเป็นโหมด Hybrid เครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าสลับการทำงานได้อย่างราบรื่น แทบไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนผ่าน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 2.5 ลิตร/100 กม. เมื่อเริ่มต้นด้วยแบตเตอรี่เต็ม ซึ่งถือว่าประหยัดมากสำหรับรถที่มีสมรรถนะระดับนี้

 

ที่ความเร็วสูงเกิน 100 กม./ชม รถให้ความรู้สึกมั่นคง เสียงลมและถนนถูกกำจัดได้ดีมาก ระบบปรับความเร็วอัตโนมัติทำงานแม่นยำ รักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าได้อย่างเหมาะสม แถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ในรุ่นที่ผมทดสอบแสดงประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ระหว่างทางผมลองเปิดใช้ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ด้วยคำสั่ง "Hey BMW" เพื่อหาร้านอาหารในละแวกนั้นระบบตอบสนองรวดเร็วและแม่นยำ

 

ในโหมด Sport Plus เราสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ระบบช่วงล่าง Adaptive M Suspension ปรับตัวทันที ให้ความแข็งแรงและตอบสนองไวขึ้น การเหยียบคันเร่งให้แรงขับที่น่าทึ่ง ด้วยกำลังสูงสุด 292 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตรจากระบบไฮบริด ทำให้รถพุ่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.6 วินาที

 

ที่น่าประทับใจคือการทำงานของช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ โดยเฉพาะจุดยึดโช๊คหลังที่แน่นขึ้น ทำให้การเข้าโค้งแม่นยำและมั่นใจ แรงในการหมุนพวงมาลัยพอดี ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกับถนนได้ดี รวมทั้งการเปลี่ยนเกียร์ผ่าน Paddle Shift ให้ความรู้สึกฉับไวและแม่นยำ

 

ระหว่างการทดลองขับ ผมได้ลองใช้ระบบช่วยถอยหลังอัจฉริยะที่จดจำเส้นทาง 50 เมตรล่าสุด ฟังก์ชันนี้น่าจะช่วยได้มากในสถานการณ์จริงเมื่อต้องถอยออกจากซอยตันหรือพื้นที่แคบๆ หรือเมื่อต้องขับในพื้นที่จำกัด ระบบช่วยจอดอัจฉริยะและกล้องรอบคันทำงานได้แม่นยำ ช่วยให้การจอดในพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่าย 

 

ระบบปรับอากาศแบบ 3 โซนทำงานได้ดี รักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับผู้โดยสารทุกตำแหน่งที่ประทับใจอีกจุดคือเบาะทรงสปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุ M Performtex ที่ให้ทั้งความสบายในการขับระยะไกลและการรองรับร่างกายที่ดีเมื่อขับแบบสปอร์ต

 

บทสรุป: BMW 330e LCI2 ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักความเร็วที่ต้องการรถสปอร์ตไว้ขับสำหรับวันหยุด หรือคนทำงานที่ต้องการรถหรูประหยัดน้ำมันไว้ใช้ในเมือง BMW 330e LCI ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน ด้วยระยะทางที่วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ถึง 101 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางในเมืองแทบไม่ต้องใช้น้ำมันเลย แต่เมื่อต้องการความแรง ก็มีกำลังเครื่องยนต์พร้อมตอบสนอง สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถหรูสมรรถนะสูงที่ขับได้ทุกวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมัน BMW 330e LCI คือคำตอบที่ลงตัวที่สุด

#BMWMillenniumAuto
#MillenniumAuto
#BMW330eMSport
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ
BMW Blogs