ประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของรถTouring หรือรถสเตชั่นแวกอน ของ BMW มีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับประวัติโดยรวมของแบรนด์และความมุ่งเน้นที่สมรรถนะและความหรูหรานี่คือภาพรวมโดยย่อ
ตำนานของ BMW Touring นั้นทุกอย่างเริ่มต้นจาก BMW 2002 Touring แฮทช์แบ็กสามประตูสุดคลาสสิกที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1971 แต่ตอนนั้นมันอาจจะมาเร็วไปนิดเพราะผลิตไปได้แค่ 25,000 คันทั่วโลกก็หยุดสายการผลิตไปในปี 1974
แต่ไม่จบแค่นั้น! ในยุค 80s BMW กลับมาพร้อมกับ 3 Series Touring E30 รถสเตชั่นแวกอนสุดฮอตที่ทั้งใช้งานได้จริงและยังซิ่งได้อีก โดนใจพ่อบ้านยุคนั้นสุด ๆ 3 Series Touring ได้รับการยกย่องในเรื่องการควบคุมรถแบบสปอร์ตและการออกแบบที่ใช้งานได้จริง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Touring ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของ BMW 3 Series ตลอดแทบทุกเจเนอเรชั่น
พอถึงยุค 90s ทาง BMW ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่ 3 Series พวกเขายังปล่อย BMW 5 Series Touring (E34) ออกมาอีก ซึ่งนี่แหละคือตำนานแห่งรถครอบครัวที่แท้ทรู! ไม่ว่าจะพาไปแคมป์หรือพาลูกไปโรงเรียน รถรุ่นนี้ก็ทำได้หมด เครื่องยนต์ก็มีให้เลือกเพียบ ตั้งแต่เบนซิน 6 สูบยันดีเซลเทอร์โบ ประหยัดน้ำมันแถมขับสนุก นอกจากนี้ ยังมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่ช่วยให้รถมีความคล่องตัวและเกาะถนนได้ดีเยี่ยม ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ทำให้รถรุ่นนี้สามารถตอบสนองทุกความต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน และ BMW 5 Series Touring ก็ได้รับความนิยมทุกเจอเนอเรชั่นเช่นเดียวกัน ในฐานะรถครอบครัวที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแค้มปิ้ง
กว่า 30 ปี 5-Series Touring ถูกปรับปรงทั้งสมรรถนะ ประโยชน์ใช้สอยจนมาถึงความล้ำสุดแห่งยุคในตอนนี้ ก็ต้องยกให้ BMW i5 Touring รถยนต์ไฟฟ้า 100% ในรูปแบบสเตชั่นแวกอน ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่นและเทคโนโลยีล้ำสมัยโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW พร้อมไฟหน้า LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ขับสนุกไม่มีเสียงเครื่องยนต์ให้กวนใจ
ในรุ่น BMW i5 Touring eDrive40 แรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 340 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลัง เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลถึง 560 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง! ชุดแบตเตอรี่ของ BMW i5 Touring eDrive40 รองรับกำลังชาร์จกระแสตรง (DC) ได้สูงสุดถึง 205 กิโลวัตต์ เรียกได้ว่าเร็วจี๋ แต่ถ้าใช้ Wallbox รุ่น 22 กิโลวัตต์ จะชาร์จจาก 0% ถึง 100% ได้ในเวลาแค่ 4 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้นเอง!
นอกจากพื้นที่สัมภาระจุใจที่เป็นความพิเศษของ BMW i5 Touring eDrive40 คือเมื่อพับเบาะหลังให้ราบสุดสามารถจุของได้ถึง 1,700 ลิตร ใส่ของได้เพียบ! ไม่ว่าจะเป็รนกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ จักรยานเสือหมอบ เซิร์ฟบอร์ด อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง ถุงกอล์ฟ 3-4 ใบ หรือกรงขนาดใหญ่แม้แต่เบาะนอนของน้องหมาน้องแมวตัวโปรด ก็ยัดได้หมด แถมตัวรถยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำทั้ง Parking Assistant, จอ BMW Curved Display และะบบเสียง Harman Kardon แบบจัดเต็ม มาพร้อมฟีเจอร์เทพๆ อย่าง Active Cruise Control, Lane Keep Assistant และ Steering Assistant ช่วยให้การขับรถเป็นเรื่องง่าย แถมยังมี Parking Assistant Plus ช่วยให้การจอดทุกแบบเป็นเรื่องหมูๆ
ยังไม่หมด! ถ้าใครอยากบันเทิงในระหว่างที่รถจอดชาร์จ ก็มี AirConsole ที่ให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารสามารถเล่นเกมเพลินๆ รอไปได้เลย เรียกได้ว่า ขับก็สนุก จอดก็ยังไม่เบื่อ!
สรุปง่ายๆ BMW i5 Touring eDrive40 ก็คือรถพ่อบ้านสุดเฟี้ยวที่ครบเครื่องทั้งสมรรถนะ ความหรูหรา และความเป็นรถครอบครัว สายซิ่งทั้งหลายที่อยากได้รถใช้งานในชีวิตประจำวันหรือพาเที่ยวแบบชิลๆ ก็ควรมีไว้ครอบครอง!