เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปี 2022 นั้นเป็นปีที่ BMW ฉลองครบรอบ 50 ปีของแผนก M ด้วยเหตุนี้จึงมีรถตัวแรงทยอยเปิดตัวกันออกมาหลายรุ่น หนึ่งในนั้นก็คือ BMW M4 GT4 รถที่ผลิตออกมาเพื่อใช้แข่งขันโดยเฉพาะสำหรับฤดูกาลแข่งขันในปีหน้าที่กำลังจะมาถึง
ด้วยพละกำลังของเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่รีดแรงม้าได้ถึง 550 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดถึง 650 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ 7 สปีดจาก ZF ก็ทำให้ BMW M4 GT4 ขึ้นเป็นหัวแถวได้ไม่ยาก และหากจะรีดน้ำหนักให้เบาด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคันก็น่าจะทำให้รถคันนี้มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักต่ำกว่า 3 กิโลกรัมต่อแรงม้าได้ไม่ยาก
แต่ด้วยนโยบายจาก BMW Group ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability ซึ่งในกระบวนการผลิตจะยึดหลัก 4R คือ REduce-REuse-REthink-REcycle ซึ่งไม่เว้นแม้แต่แผนก M ก็ต้องพัฒนารถที่คงความแรงแต่ก็ต้องสอดคล้องกับหลักการเหล่านี้ด้วย
นั่นจึงเป็นที่มาของการพัฒนารถแข่งรุ่นใหม่อย่าง BMW M4 GT4 ที่รักษ์โลกมากขึ้นกว่าเก่า ด้วยการจับมือกับสตาร์ทอัพจากสวิสฯ อย่าง Bcomp ที่เชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ สร้างชิ้นส่วนและโครงสร้างน้ำหนักเบา ซึ่งยังคงมีข้อดีแบบเดียวกับคาร์บอนไฟเบอร์ คือแข็งแรง น้ำหนักเบา ทนทานแรงดึงสูง และทนต่ออุณหภูมิสูง แต่เพิ่มคุณสมบัติมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า เพราะทำจากเส้นใยธรรมชาติ 100% สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ย่อยสลายได้ ไม่ต้องนำไปฝังกลบแบบชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์แบบเดิม
ความร่วมมือที่ยาวนาน
บีเอ็มดับเบิลยูเริ่มทำงานกับวัสดุของ Bcomp เป็นครั้งแรกในปี 2019 เมื่อพวกเขาใช้วัสดุผสมไฟเบอร์จากเส้นใยธรรมชาติประสิทธิภาพสูงในรถยนต์ BMW iFE.20 Formula E ในชุดเพลาที่เสริมด้วยโซลูชั่นเส้นใยธรรมชาติ ampliTex™ และ powerRibs™ และพบว่ามันสามารถแทนที่ส่วนประกอบคาร์บอนไฟเบอร์เดิมได้ การพัฒนาจึงค่อยๆ ขยับไปสู่รถโมเดลอื่น และความร่วมมือล่าสุดกับ Bcomp ก็เกิดขึ้นในรถ BMW M4 GT4
ส่วนสำคัญขององค์ประกอบชิ้นส่วนไบโอโพลีเมอร์น้ำหนักเบา คือ ampliTex™เส้นใยธรรมชาติจากลินินที่นำมาทอซ้อนกันด้วยเทคนิคพิเศษทำให้รับแรงเฉือนและแรงดึงได้หลายมุม ซึ่งจะถูกวางอยู่บน powerRibs™ซึ่งเป็นเสมือนตะแกรงเสริมแรงด้วยเส้นใยธรรมชาติที่มีน้ำหนักเบามาก ทนต่อการดัดงอและซึมซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ทั้งหมดนำมายึดติดกันด้วย Evopreg ® ที่เป็นอีพ๊อกซี่สังเคราะห์จากไบโอเรซินก่อนนำมาผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยแรงดันและความร้อน ซึ่งส่วนประกอบจากเส้นใยธรรมชาตินี้นอกจากจะสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ในสนามแข่ง เพราะส่วนประกอบของคาร์บอนไฟเบอร์แบบเดิมเมื่อได้รับการชนจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้เกิดเศษเล็กๆที่แหลมคม แต่เส้นใยธรรมชาติที่มี ampliTex™ และ powerRibs™ นั้นไม่มีเศษแหลมคมที่เป็นอันตรายต่อนักแข่ง
มอเตอร์สปอร์ตที่ยั่งยืนและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีชิ้นส่วนที่มาจากเส้นใยธรรมชาติ ampliTex™ และ powerRibs™ ของ Bcomp นั้นถูกติดตั้งไว้ใน BMW M4 GT4 ใหม่หลายจุด ทั่วทั้งห้องโดยสาร อาทิ ที่แผงหน้าปัดและคอนโซลกลาง ในชิ้นส่วนตัวถัง เช่น ฝากระโปรงหน้า ช่องรับอากาศด้านหน้า ประตู ตัวถังด้านข้าง และสปอยเลอร์หลัง ยกเว้นหลังคาที่ยังคงเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) แบบเดิม
การปรับมาใช้ชิ้นส่วนผสมผสานวัสดุทั้งสองเข้าด้วยกันทำให้สามารถลดปริมาณพลาสติกที่ใช้สำหรับแผ่นบุผนังภายในได้ถึง 70% และในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการปล่อย CO2 ได้มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์
BMW ตั้งราคารถแข่ง M4 GT4 รุ่นใหม่ไว้ที่ 187,000 ยูโร โดยจะเริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 2023 รถแข่งหลายคันจะเริ่มออกตระเวนเก็บคะแนนจากสนามต่างๆ ได้ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป แต่ผลการวิจัยและประสบการณ์ที่ได้รับจากสนามแข่ง จะทำให้เทคโนโลยีวัสดุใหม่เหล่านี้แทรกเข้ามาอยู่ใน BMW M และชิ้นส่วน BMW M Performance มากขึ้น
Powered by Froala Editor