ความเพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมเป็นองค์ประกอบสำคัญของแบรนด์ BMW i ตั้งแต่วันแรกผลิต การใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์ให้เหลือน้อยที่สุดในทุกขั้นตอนการผลิต ประสบการณ์ทั้งหมดถูกนำมาใช้อย่างจริงจังมากขึ้นในการพัฒนาและการผลิต BMW iX ใหม่ ตั้งแต่การคัดเลือกและการสกัดวัตถุดิบที่ได้รับการตรวจสอบ ไปจนถึงการจัดหาไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนสำหรับกระบวนการผลิต ไปจนถึงการใช้ วัสดุรีไซเคิล เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าทุกครั้งที่คุณขับ BMW iX คุณมีส่วนช่วยโลกอย่างไรบ้าง
เบาะหนังปลอดสารพิษจากใบมะกอก
ในอดีตที่ผ่านมา กระบวนการฟอกหนัง การย้อมสี นั้นใช้สารเคมี กรด ส่งผลให้น้ำเสียมีสารมลพิษต่างๆ แต่นั่นไม่ใช่ที่มาของเบาะหนังสวยๆ ใน BMW iX เพราะเบาะหนังของ iX มีสารฟอกหนัง OBE ที่สกัดจากใบมะกอก ปราศจากโลหะและสารทำปฏิกิริยาสังเคราะห์ทางเคมีใดๆ เป็นสิทธิบัตรเฉพาะจากนักวิจัยในเยอรมนี และถูกนำมาใช้กับชิ้นส่วนที่ทำด้วยหนังใน BMW iX เพื่อให้ห้องโดยสารรู้สึกผ่อนคลายและผ่อนคลาย
ลายไม้ที่ยั่งยืน
ถ้าคุณก้าวขึ้นไปนั่งในรถ BMW iX และสังเกตุบริเวณคอนโซลให้ดีจะพบสัญลักษณ์ FSC ที่มุมด้านล่าง ซึ่งหมายความว่าด้วยชิ้นส่วนจากไม้แท้ๆ ชิ้นนั้นผลิดมาจากป่าที่ยั่งยืนซึ่งได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC) อันเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ส่งเสริมการจัดการป่าไม้ของโลกอย่างมีความรับผิดชอบ นำมาจากแหล่งที่ไม่ได้มีส่วนทำลายป่า ไม่เบียดเบียนชุมชน แต่เป็นความหรูหราอย่างยั่งยืนในยุคใหม่ที่เดินไปคู่กัน
จากอวนจับปลามาเป็นพรม
ปัญหาขยะพลาสติกในทะเลที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทำให้ BMW ได้แสวงหาความร่วมมือกับ Aquafil บริษัทผู้ผลิตเส้นใยระดับโลกเจ้าของลิขสิทธิ์ ECONYL® ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่สร้างเส้นใยสังเคราะห์ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ไนลอนรีไซเคิลจากอวนจับปลาเก่าและเศษไนลอนอื่นถูกทิ้งซึ่งก่อให้เกิดมลพิษในมหาสมุทร ซึ่งใน BMW iX ทุกคัน จะใช้และพรมปูพื้นที่ผลิตจาก ECONYL® ประมาณ 60 กิโลกรัม และในทุก 10,000 ตันของเส้นใย ECONYL® ที่ BMW นำมาใช้จะช่วยลดการใช้น้ำมันดิบลงได้ 70,000 บาร์เรล ลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้อีก 65,100 ตัน และสามารถลดขยะพลาสติกลงได้มหาศาล
อะลูมิเนียมจากเหมืองพลังแสงอาทิตย์
ลึกเข้าไปกลางทะเลทรายในดูไบ คือที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ Mohammed Bin Rashid Al Maktoum Solar Park ซึ่งผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดป้อนให้กับ Emirates Global Aluminium (EGA) บริษัทแรกในโลกที่ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับการถลุงอะลูมิเนียม และได้ส่งมอบอะลูมิเนียมขั้นต้นให้กับ BMW Group ตั้งแต่ปี 2013 ยังไม่รวมอลูมิเนียมแบบนำกลับมาหมุนเวียนใหม่ที่ผลิตจากโรงหล่อโลหะเบาที่โรงงาน BMW Group Landshut เพื่อผลิตตัวถังและส่วนประกอบของระบบขับเคลื่อนของ BMW iX
เหมืองโคบอลต์ และลิเธียมยั่งยืน
สองวัตถุดิบสำคัญที่ผู้ผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกต่างเสาะหากันคือ โคบอลต์ และลิเธียมที่ ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ BMW Group นั้นจัดหาโคบอลต์สำหรับเซลล์แบตเตอรี่เอง และบริษัทได้ใช้เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการบันทึกรายการการผลิตธาตุโคบอลต์ เพื่อตรวจสอบว่าแบตเตอรี่สำหรับ BMW iX และยานพาหนะไฟฟ้าของ BMW มีการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนระหว่างการสกัดและแปรรูปโคบอลต์ และไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ล่าสุด BMW ได้ร่วมลงทุนกับ Lilac Solutions สตาร์ทอัทที่มีเทคโนโลยีที่สามารถสกัดลิเธียมในน้ำเกลือโดยตรงซึ่งจะช่วยขจัดมลพิษจาก CO2 หลายร้อยล้านตันต่อปี รวมทั้งทำให้แหล่งน้ำมีความเสี่ยงเกือบเป็นศูนย์
ผลิตรถพลังน้ำ
ที่สุดของกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืนต้องยกให้กับโรงงาน BMW ในเมืองมิวนิคและดินโกลฟิง ที่เปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้งหมดจากแม่น้ำจากแม่น้ำ Isar และ Lech เพื่อผลิตและประกอบ ชิ้นส่วนของ iX และ i4 ในโรงงาน เพื่อลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ โดย BMW ตั้งเป้าว่าภายในปี พ.ศ. 2573 จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 80% ในการผลิตรถแต่ละคัน
Powered by Froala Editor