ย้อนตำนาน BMW iFE.20 รถแข่งสายพลังไฟฟ้าที่ BMW สร้างขึ้นมาสำหรับเวที Formula E ด้วยเทคโนโลยีสุดเจ๋ง โดยเริ่มตั้งแต่ฤดูกาลปี 2018/19 ที่มีการจัดตั้งทีมแข่ง BMW i Andretti Motorsport ร่วมกับทีม Andretti Autosport
ในฤดูกาลแรกของการเข้าร่วม BMW iFE.20 ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจ จากการคว้าชัยชนะในรายการปิดฤดูกาลที่ นิวยอร์กซิตี้ อีเวนต์ โดยนักแข่งแอนโตนิโอ เฟลิกซ์ ดาคอสต้า ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของ BMW ในรายการ Formula E
นอกจากนี้ BMW ยังคว้าอันดับสองในการแข่งขันประจำปีของพวกเขา ด้วยคะแนนสะสมทั้งฤดูกาล 235 คะแนน อีกทั้งนักแข่งมักซ์ กุนธร์ ก็คว้าอันดับที่ 5 ในการแข่งขันนักแข่งรายบุคคล ในฤดูกาลต่อมา BMW ยังคงแสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยคว้าอันดับที่ 3 จากทีมทั้งหมด และมักซ์ กุนธร์ ก็คว้าอันดับที่ 7 จากนักแข่งทั้งหมด
รถแข่ง BMW iFE.20 ที่ใช้ในการแข่งขัน Formula E นั้นมีจุดเด่นและนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 32 kWh สามารถจ่ายพลังงานให้มอเตอร์ไฟฟ้าได้สูงสุด 250 kW หรือประมาณ 335 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 280 กม./ชม.
- ชุดวงจรควบคุมพลังงาน (Inverter) ชั้นนำของ BMW ที่ควบคุมการสนับสนุนพลังงานไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนและอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม
- การออกแบบตัวถัง Aerodynamics การไหลของอากาศถูกคำนวณและทดสอบในอุโมงค์ลมอย่างละเอียด ทรงตัวถังแบบ Teardrop มีรูปร่างคล้ายหยดน้ำเพื่อลดแรงเสียดทานอากาศให้น้อยที่สุด Front Wing และ Rear Wing ที่ออกแบบพิเศษ สร้างแรงดันอากาศเพื่อเพิ่มแรงดันประคองตัวถังไว้กับพื้น เพิ่มการยึดเกาะถนน และมีช่องรับลมที่ออกแบบมาเพื่อระบายความร้อนจากแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า
- โครงสร้างตัวถัง Carbon Fiber Monocoque สุดเบามีน้ำหนักเพียง 200 กก. แต่ทนทานสูง ช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก
- วัสดุเกรดพิเศษในการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าและอินเวอร์เตอร์ ขดลวดมอเตอร์ใช้วัสดุทองแดงผสมเหล็กกล้าคุณภาพสูงพิเศษ เพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน วงจรอิเล็กทรอนิกส์กำลังควบคุมการจ่ายพลังงานใช้วัสดุซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) ประสิทธิภาพสูงผ่านกระบวนการเคลือบผิวป้องกันความร้อนด้วยวิธีพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- ชุดเบรกใช้ระบบรีเจนเนอเรทีฟเพื่อเก็บกักพลังงานกลับคืนสู่แบตเตอรี่
- ซอฟต์แวร์ควบคุมรถที่พัฒนาเป็นพิเศษ มีการประยุกต์ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์และปรับให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ปัจุบันถึงแม้ BMW จะหันเหความสนใจไปสู่การแข่งขันใหม่แล้วก็ตาม แต่นวัตกรรมจากรถแข่งคันนี้ได้ส่งต่อสู่การพัฒนารถไฟฟ้าของ BMW รุ่นต่อๆ ไป ทั้ง BMW iX BMW i4 BMW XM รวมไปถึง BMW M5 ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และ BMW พลังไฟฟ้าแบบ 4 มอเตอร์ที่กำลังทอสอบกันอยู่ในปัจจุบันนี้ด้วย การมีส่วนร่วมของ BMW ในรายการ Formula E จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยผลักดันการพัฒนารถยนต์พลังงานสะอาดต่อไปในในอนาคต
